เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่นไหนดี จุดพิจารณาก่อนซื้อ แต่ล่ะรุ่น จุดเด่น รีวิวผู้ใช้ส่วนใหญ่

เครื่องฟอกอากาศ Philips ( air-purifier ) เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องฟอกอากาศชั้นนำของโลก ที่ผลิตเครื่องฟอกอากาศออกมาหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมายในการเลือกซื้อ
ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่นไหนดี แต่ล่ะรุ่น รีวิวผู้ใช้งานส่วนใหญ่ จุดเด่น จุดพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ว่าแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร ดีไหม เลือกรุ่นไหนให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพกัน
4 เครื่องฟอกอากาศ Philips รุ่นยอดนิยม รีวิวผู้ใช้ส่วนใหญ่
เครื่องฟอกอากาศ Philips มีให้เลือกหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป สามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการและงบประมาณ โดยรุ่นที่ได้รับความนิยม ได้แก่
- Philips AC1715/21 เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ (16-78 ตร.ม.) มีเทคโนโลยี NanoProtect HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 รวมถึงไวรัสและสารก่อภูมิแพ้ได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Sleep Mode ที่ช่วยนอนหลับสบายยิ่งขึ้น และรองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน CleanHome+
- Philips AC0850/21 เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงเล็ก (16-49 ตร.ม.) มีเทคโนโลยี NanoProtect HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 รวมถึงไวรัสและสารก่อภูมิแพ้ได้
- Philips AC0820/20 เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงเล็ก (16-49 ตร.ม.) มีเทคโนโลยี Allergy Sensor+ ที่ช่วยตรวจจับและกำจัดสารก่อภูมิแพ้
- Philips AC0650 เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก (12 ตร.ม.) มีเทคโนโลยี Allergy Sensor+ ที่ช่วยตรวจจับและกำจัดสารก่อภูมิแพ้
เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS AC0820/20

เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS AC0820/20 เหมาะสำหรับห้องขนาด 16-49 ตร.ม. – NanoProtect HEPA เป็น เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์ Series 800 เครื่องเล็กกะทัดรัด แต่ทรงประสิทธิภาพ มอบอากาศบริสุทธิ์สู่บ้านคุณ ขจัดอนุภาคที่เล็กถึง 0.003ไมครอน ได้ถึง 99.5%บอกลามลพิษในอากาศในอาคารได้เลย กำจัดอนุภาค 0.003 ไมครอน ได้ถึง 99.5% Particle CADR: 190 ลบ.ม./ชม. โหมดอัตโนมัติและสลีป
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ 99.97%
- ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
- ราคาไม่แพง
จุดพิจารณา
- ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก-กลาง
- กำลังการฟอกอากาศไม่สูงมาก เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 50 ตารางเมตร
คุณสมบัติ
- เทคโนโลยีกรองอากาศ Allergy Sensor+ ที่สามารถตรวจจับและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้
- เทคโนโลยี Airflow Booster ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายอากาศในห้อง
- เซ็นเซอร์ PM2.5 ที่สามารถตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศ
- หน้าจอแสดงผลแบบ LED แสดงข้อมูลการฟอกอากาศ
- ฟังก์ชัน Sleep Mode ช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
- ควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรล
- ประสิทธิภาพในการกำจัดอนุภาคขนาดนาโนที่เล็กกว่า 0.003 ไมครอน (เล็กกว่าขนาด PM2.5 ถึง 800 เท่า)ได้ถึง 99.5%
- Particle CADR: 190 ลบ.ม./ชม.
- ระบบอัจฉริยะกรองอากาศอัตโนมัติ จะทำการตรวจวัดคุณภาพ และทำงานทันทีเมื่อพบความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในอากาศ
- แสดงคุณภาพอากาศด้วย 4 ระดับสีแบบเรียลไทม์
- ขนาดกะทัดรัด ลงตัวกับทุกพื้นที่ภายในบ้านอย่างง่ายดาย เหมาะกับพื้นที่ห้อง 16-49 ตร.ม.
- กรองอากาศด้วยระบบหมุนวนเวียนอากาศแบบ 3 มิติ ใช้เวลาฟอกอากาศในพื้นที่ 20 ตารางเมตรน้อยกว่า 16 นาที
- โหมด Sleep ไฟแสดงสถานะจะลดความสว่างลง และการทำงานของเครื่องฟอกอากาศจะทำงานอย่างเงียบพิเศษ
- เสียงในระหว่างทำงานเบาเพียง 35-61 dB(A) เหมาะสมสำหรับใช้ในห้องนอนหรือห้องเด็กทารก
รีวิวผู้ใช้ส่วนใหญ่
จากรีวิวของผู้ใช้ส่วนใหญ่ พบว่าเครื่องฟอกอากาศ PHILIPS AC0820/20 มีประสิทธิภาพการกรองอากาศที่ดี สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากฝุ่นละออง เชื้อโรค สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และดีไซน์สวยงาม ทันสมัยอีกด้วย
ความคิดเห็นผู้ใช้งาน
“ใช้แล้วชอบมากค่ะ อากาศในห้องสะอาดขึ้น หายใจได้โล่งสบายขึ้น ฝุ่นละอองลดลง ที่สำคัญคือใช้งานง่าย ติดตั้งก็ง่าย ดีไซน์ก็สวยด้วยค่ะ”
“ซื้อมาใช้งานแล้วคุ้มค่ามากค่ะ อากาศในห้องสะอาดขึ้น รู้สึกหายใจได้ดีขึ้น ที่สำคัญคือราคาไม่แพงด้วยค่ะ”
โดยรวมแล้ว เครื่องฟอกอากาศ PHILIPS AC0820/20 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และราคาไม่แพง เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก-กลาง
เครื่องฟอกอากาศ Philips AC0650

เครื่องฟอกอากาศ Philips AC0650 เป็นรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นของ Philips ราคาไม่แพง เหมาะสำหรับห้องขนาด 44 ตร.ม. สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ 99.97% ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ 99.97%
- ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
- ราคาไม่แพง
จุดพิจารณา
- ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก
- กำลังการฟอกอากาศไม่สูงมาก เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 44 ตารางเมตร
คุณสมบัติ
- เทคโนโลยีกรองอากาศ Allergy Sensor+ ที่สามารถตรวจจับและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้
- เทคโนโลยี Airflow Booster ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายอากาศในห้อง
- เซ็นเซอร์ PM2.5 ที่สามารถตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศ
- หน้าจอแสดงผลแบบ LED แสดงข้อมูลการฟอกอากาศ
- ฟังก์ชัน Sleep Mode ช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
- ควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรล
รีวิวผู้ใช้ส่วนใหญ่
จากรีวิวของผู้ใช้ส่วนใหญ่ พบว่าเครื่องฟอกอากาศ Philips AC0650 มีประสิทธิภาพการกรองอากาศที่ดี สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากฝุ่นละออง เชื้อโรค สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และดีไซน์สวยงาม ทันสมัยอีกด้วย
ความคิดเห็นผู้ใช้
“ใช้แล้วชอบมากค่ะ อากาศในห้องสะอาดขึ้น หายใจได้โล่งสบายขึ้น ฝุ่นละอองลดลง ที่สำคัญคือใช้งานง่าย ติดตั้งก็ง่าย ดีไซน์ก็สวยด้วยค่ะ”
“ซื้อมาใช้งานแล้วคุ้มค่ามากค่ะ อากาศในห้องสะอาดขึ้น รู้สึกหายใจได้ดีขึ้น ที่สำคัญคือราคาไม่แพงด้วยค่ะ”
โดยรวมแล้ว เครื่องฟอกอากาศ Philips AC0650 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และราคาไม่แพง เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก
เครื่องฟอกอากาศ Philips AC0850/21 Air Purifier 800i Series

เครื่องฟอกอากาศ Philips AC0850/21 800i Series เป็นรุ่นที่เหมาะ สำหรับห้องขนาด 16-49 ตร.ม. – NanoProtect HEPA เป็นรุ่นยอดนิยมของ Philips ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ฟอกอากาศบริสุทธิ์ในเวลาไม่เกิน 16 นาที ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว เครื่องฟอกอากาศจะกรองไวรัส สารก่อภูมิแพ้หรือมลพิษที่มองไม่เห็นในบ้านของคุณ เพื่อรักษาความสะอาดและความปลอดภัย ซึ่งจะฟอกอากาศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วยอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 190 ลบ.ม./ชม.
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ 99.95% รวมถึงไวรัสและสารก่อภูมิแพ้
- ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก
- ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
- ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน CleanHome+
จุดพิจารณา
- ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก-ขนาดกลาง
คุณสมบัติ
- เทคโนโลยีกรองอากาศ NanoProtect HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ 99.95% รวมถึงไวรัสและสารก่อภูมิแพ้
- เทคโนโลยี AeraSense ที่สามารถตรวจวัดคุณภาพอากาศและปรับความแรงในการฟอกอากาศให้เหมาะสม
- เซ็นเซอร์ PM2.5 ที่สามารถตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศ
- หน้าจอแสดงผลแบบ LED แสดงข้อมูลการฟอกอากาศ
- ฟังก์ชัน Sleep Mode ช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
- ควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรล
- ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว เครื่องฟอกอากาศจะกรองไวรัส สารก่อภูมิแพ้หรือมลพิษที่มองไม่เห็นในบ้านของคุณ ซึ่งจะฟอกอากาศได้อย่างรวดเร็ว
- ประสิทธิภาพด้วยอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 190 ลบ.ม./ชม.
- ขจัดไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และมลพิษได้ 99% (2,3,6)
- ฟอกอากาศในห้องได้สูงสุด 49 ตร.ม.
- อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ 190 ลบ.ม./ชม. (CADR)
- แผ่นกรอง HEPA และผงถ่านกัมมันต์
รีวิวผู้ใช้ส่วนใหญ่
จากรีวิวของผู้ใช้ส่วนใหญ่ พบว่าเครื่องฟอกอากาศ Philips AC0850/21 มีประสิทธิภาพการกรองอากาศที่ดี สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากฝุ่นละออง เชื้อโรค สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และดีไซน์สวยงาม ทันสมัยอีกด้วย
ความคิดเห็นผู้ใช้งาน
“ใช้แล้วชอบมากค่ะ อากาศในห้องสะอาดขึ้น หายใจได้โล่งสบายขึ้น ฝุ่นละอองลดลง ที่สำคัญคือใช้งานง่าย ติดตั้งก็ง่าย ดีไซน์ก็สวยด้วยค่ะ”
“ซื้อมาใช้งานแล้วคุ้มค่ามากค่ะ อากาศในห้องสะอาดขึ้น รู้สึกหายใจได้ดีขึ้น ที่สำคัญคือราคาไม่แพงด้วยค่ะ”
โดยรวมแล้ว เครื่องฟอกอากาศ Philips AC0850/21 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และราคาไม่แพง เหมาะสำหรับห้องขนาดกลาง
เครื่องฟอกอากาศ Philips AC1715/21 Serie 1000i

เครื่องฟอกอากาศ Philips AC1715/21 Serie 1000i เหมาะสำหรับห้องขนาด 16-78 ตร.ม. – NanoProtect HEPA เป็นรุ่นยอดนิยมของ Philips ที่มีประสิทธิภาพการกรองอากาศสูงและเหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่ ฟอกอากาศบริสุทธิ์ในเวลาไม่เกิน 10 นาที ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว เครื่องฟอกอากาศจะกรองไวรัส สารก่อภูมิแพ้หรือมลพิษที่มองไม่เห็นในบ้านของคุณ เพื่อรักษาความสะอาดและความปลอดภัย ซึ่งจะฟอกอากาศได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วยอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) 300 ลบ.ม./ชม.ขจัดไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และมลพิษได้ 99.9% (2,3,4) ฟอกอากาศในห้องได้สูงสุด 78 ตร.ม. อัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ 300 ลบ.ม./ชม. (CADR) แผ่นกรอง HEPA และผงถ่านกัมมันต์ เชื่อมต่อกับแอป CleanHome+
จุดเด่น
- ประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ 99.95% รวมถึงไวรัสและสารก่อภูมิแพ้
- ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก
- ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย
- ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน CleanHome+
จุดพิจารณา
- ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่
คุณสมบัติ
- เทคโนโลยีกรองอากาศ NanoProtect HEPA ที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้ 99.95% รวมถึงไวรัสและสารก่อภูมิแพ้
- เทคโนโลยี AeraSense ที่สามารถตรวจวัดคุณภาพอากาศและปรับความแรงในการฟอกอากาศให้เหมาะสม
- เซ็นเซอร์ PM2.5 ที่สามารถตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในอากาศ
- หน้าจอแสดงผลแบบ LED แสดงข้อมูลการฟอกอากาศ
- ฟังก์ชัน Sleep Mode ช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
- ควบคุมการทำงานผ่านรีโมทคอนโทรล
- เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน CleanHome+ เพื่อควบคุมการทำงานจากระยะไกล
- เซนเซอร์ระดับมืออาชีพสําหรับการฟอกอากาศอัจฉริยะ
- ผ่านการทดสอบและรับรองคุณภาพที่คุณวางใจได้
- ขจัดไวรัสและฝุ่นละอองตามอากาศได้สูงสุดได้สูงถึง 99.9%
- กรองอนุภาคขนาดเล็ก 0.003 ไมครอนไดถึง 99.97%
- ฟอกอากาศได้อย่างรวดเร็วเหมาะกับพื้นที่ที่มีขนาดไม่เกิน 78 ตร.
- เสียงในระหว่างทำงานเบาเพียง 35-61 dB(A) เหมาะสมสำหรับใช้ในห้องนอนหรือห้องเด็กทารก
รีวิวผู้ใช้ส่วนใหญ่
จาก รีวิว เครื่องฟอกอากาศ Philips AC1715/21 Serie 1000i ของผู้ใช้ส่วนใหญ่ พบว่าเครื่องฟอกอากาศ มีประสิทธิภาพการกรองอากาศที่ดี สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากฝุ่นละออง เชื้อโรค สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และดีไซน์สวยงาม ทันสมัยอีกด้วย
ความคิดเห็นผู้ใช้งาน
“ใช้แล้วชอบมากค่ะ อากาศในห้องสะอาดขึ้น หายใจได้โล่งสบายขึ้น ฝุ่นละอองลดลง ที่สำคัญคือใช้งานง่าย ติดตั้งก็ง่าย ดีไซน์ก็สวยด้วยค่ะ”
“ซื้อมาใช้งานแล้วคุ้มค่ามากค่ะ อากาศในห้องสะอาดขึ้น รู้สึกหายใจได้ดีขึ้น ที่สำคัญคือราคาไม่แพงด้วยค่ะ”
โดยรวมแล้ว เครื่องฟอกอากาศ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และราคาไม่แพง เหมาะสำหรับห้องขนาดกลางถึงใหญ่
จุดพิจารณาในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ (2)
- ประสิทธิภาพการกรองอากาศ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้อย่างน้อย 99%
- ขนาดห้อง ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) เหมาะสมกับขนาดห้องที่ต้องการใช้งาน โดยคำนวณจากสูตรดังนี้
CADR = พื้นที่ห้อง (ตร.ม.) x อัตราการไหลของอากาศ (ลบ.ม./ชม.)
- คุณสมบัติอื่นๆ เช่น เทคโนโลยีกรองอากาศ เซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ หน้าจอแสดงผล ฟังก์ชันการทำงานต่างๆ ก็สามารถพิจารณาเลือกได้ตามความต้องการและงบประมาณ
สรุป เครื่องฟอกอากาศ Philips ดีไหม (3)
เครื่องฟอกอากาศ Philips ดีไหม จากผลสำรวจรีวิวความคิดเห็นผู้ใช้พบว่าพึ่งพอใจกับประสิทธิภาพการกรองอากาศได้ดี เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพการกรองอากาศสูง ติดตั้งง่าย ใช้งานสะดวก และดีไซน์สวยงาม แต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป สามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการและงบประมาณ